THE X - Unit 18
จูเนียร์เปิดประตูห้องพักของกรรมการนักศึกษาเข้ามาด้วยหน้าตาแสนเหนื่อยเพราะเพิ่งเลิกจากคลาสมหาโหดแต่กลับต้องตกใจเพราะเจอกองซากมนุษย์สลบไสลอยู่ก่อนแล้ว
หนังสือที่ถือติดมือมาสองสามเล่มถูกโยนลงตรงร่างเหล่านั้นโดยไม่หยุดคิดสักนิด แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าทำให้พวกนั้นสะทกสะท้านแต่อย่างใด
จูเนียร์ทิ้งตัวลงที่เก้าอี้บุนวมตัวใหญ่อย่างเซ็งที่อุตส่าห์หาเรื่องน่าสนุกอย่างการแกล้งคนทำเพื่อฆ่าเวลาแต่ไม่มีสัญญาณตอบรับแบบนี้มันสนุกตรงไหน
คนร่างบางที่นั่งครองเก้าอี้ไถให้ล้อหมุนเล่นไปมาทว่าสายตาเฉียบกลับพบอะไรบางอย่างจากกองซากนั้น
มือหนาออกแรงดันตัวขึ้นจากเก้าอี้ก่อนก้าวฉับๆ ไปพร้อมกับโทรศัพท์มือถือ แล้วเปิดแอพพลิเคชั่นกล้องขึ้นมารัวอยู่สามสี่รูปและเก็บลงกระเป๋ากางเกง
"ทำอะไรอ่ะจินยอง!"
คนที่เพิ่งมาถึงเปล่งเสียงทักจนเจ้าของชื่อสะดุ้ง
"เจบี..."
"ทำอะไร?"
จูเนียร์ไม่ตอบ แต่ลากคนช่างสงสัยออกมาให้ห่างก่อนจะล้วงโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปให้ดูแทน
ตาเล็กๆ ของเจบีเบิกกว้างเมื่อเห็นสิ่งนั้น ทว่าที่จูเนียร์ไม่ได้คิดไว้ล่วงหน้าคือความไม่พอใจของเจบี
"แบมแบม..!! ลุกขึ้น!"
ไม่แค่เรียกเปล่าๆ มือหนาของพี่ชายที่มีสีผมคู่กันเขย่าไหล่เล็กที่เป็นหนึ่งในกองซากมนุษย์จนหัวคลอน
"อื้อ..."
เสียงเล็กดังขึ้นก่อนที่จะยกมือขยี้ตาเบาๆ แต่เจบีก็เอาแต่จับแขนเอาไว้เพื่อเร่งให้ออกมาจากโซฟาตัวหนา แบมแบมปัดขายูคยอมออกจากแขนก่อนจะหันไปดันศรีษะของยองแจให้พ้นสะโพกอีกที
"ไปทำอะไรมา!?"
เจบีหันหน้าจอให้เจ้าตัวดูผลงานเมื่อลากออกมาห่างจากพวกขี้เซา
"เฮ้ย!!"
แบมแบมร้องเสียงดังพร้อมยกมือติดกระดุมเสื้อเชิ้ต ก่อนจะปรายตาไปทางเพื่อนที่นอนอยู่แล้วคว้าข้อมือเจบีที่ตีหน้าเข้มให้หันมา
"ว่าไง... รอยนี่คือยังไง?"
"คือ... เมื่อคืนไปเที่ยวมาฮะ"
"แล้ว..?"
"แต่นั่นแหละ... แค่นั้น ไม่มีอะไรเกินเลย"
"ใคร? ผู้หญิงหรือผู้ชาย?" เจบีถามรัว
"เอ่อ... กะ.. ก็ต้องผู้หญิงสิ!"
ตอบไปแบบหน้าเจื่อนๆ ซึ่งคนเป็นพี่กอดอกมองอย่างจับผิด
"แบมแบมก็รู้ว่าพี่ไม่ชอบ ถ้าไอ้ยูค ไอ้ยองแจ จะเจ้าชู้ก็ปล่อยมัน แต่ต้องไม่ใช่เรา! เข้าใจใช่ไหม!?"
"เอ่อ.. ขะ เข้าใจฮะ"
เจบีตบไหล่เล็กเบาๆ ก่อนจะเดินไปหาจูเนียร์ที่นั่งรออยู่ที่โต๊ะโดยปล่อยให้แบมแบมทำหน้าหงอยๆ กลับไปที่โซฟา แต่จะให้นอนต่อคงไม่มีอารมณ์แล้ว
แต่ไหนแต่ไรทุกคนหวงเขาแทบตาย จะไปเที่ยวหรือมีใครมายุ่งต้องถูกคนในกลุ่มสแกนก่อน แม้ว่านิสัยแท้ๆ จะทั้งห้าวทั้งเกรียนผิดกับหน้าตาน่ารัก ทุกคนก็ยังไม่เลิกห่วงเพราะถึงอย่างไรก็เป็นที่รักมากที่สุดอยู่ดี
"ไอ้แจ็คสันล่ะ?"
จูเนียร์เลี่ยงที่จะคุยเรื่องแบมแบมต่อแต่เปลี่ยนเป็นถามหาคนที่เรียนด้วยกันกับเจบีแทน
"ไปหาอาจารย์ เดี๋ยวมา"
จูเนียร์พยักหน้ารับรู้แล้วไถเก้าอี้นวมเล่นราวกับกำลังใช้ความคิดเช่นเดิม จนเจบีแปลกใจเอื้อมมือไปยื้อเก้าอี้ให้หยุดนิ่ง
"เป็นอะไร?"
"กูอาจคิดมากไป ถ้าหากมันมีอะไรแล้วกูจะบอก"
"แล้วแต่..."
ไม่ทันไรประตูบานหนาถูกเปิดอีกครั้งตามด้วยร่างของคนที่ถูกถามถึงแถมยังดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ
"ไงมึง หน้าเป็นตูด" แจ็คสันเอ่ยทักทั้งคู่
"กูง่วง ส่วนไอ้เจบีก็..."
"กูหิว" เจบีขัด
"เออ... หาอะไรกินกันดีกว่า เดี๋ยวกูต้องเข้าพรีเซ้นต์งานตอนบ่ายอีก" แจ็คสันกระเถิบตัวขึ้นนั่งบนโต๊ะตัวใหญ่ก่อนจะล้วงมือถือมากดยุกยิก
จูเนียร์ลุกขึ้นยืนเป็นคนแรกแล้วตบไหล่แจ็คสันเบาๆ เป็นเชิงบอกให้รู้ว่าไปกันได้แล้ว ชายหนุ่มกระโดดลงจากโต๊ะและก้าวตามโดยมีเจบีอยู่ท้ายสุด
โรงอาหารของมหาวิทยาลัยคนค่อนข้างบางตาแต่ของกินก็ยังมากมายเช่นเดิม ต่างคนต่างแยกไปเลือกซื้อของที่ต้องการทว่าแจ็คสันเหลือบไปเห็นเจบีที่เดินหายไปทางบันไดกับใครสักคนที่เขาคุ้นหน้าจึงเร่งฝีเท้าเดินตามไปเงียบๆ
"เห็นกอหญ้าบ้างไหม?"
คำถามที่ออกมาจากเพื่อนทำเอาแจ็คสันขมวดคิ้ว เขาไม่คิดว่าเจบีจะสนใจในตัวเธอ เขาคิดแค่ว่าเพื่อนของเขาต้องการจับตาดู หรือบางทีเขาอาจจะคิดผิดอีกแล้ว
"ไม่รู้สิ" คนที่ถูกลากมาถามคือโรม นายแบบฮอตที่เคยถ่ายงานกับกอหญ้าแถมยังค่อนข้างสนิทกัน
"นายไม่รู้หรือนายไม่บอก"
"ถึงเราจะเคยทำงานด้วยกัน แต่นายเป็นอะไรกับกอหญ้าล่ะ!?" โรมเหล่มองอย่างไม่ใส่ใจนักแต่ก็มีทีท่าคล้ายรอคอยคำตอบ ลองเป็นรูปแบบนี้ก็เหมือนเผยให้รู้กลายๆ ว่าเขารู้ว่าคนที่ถูกถามถึงอยู่ที่ไหน
แจ็คสันหลบออกไปเมื่อเจบีคล้ายจะรู้สึกได้และมองมาทางที่เขายืนอยู่ทำให้ไม่ได้อะไรเพิ่มเติมแต่คนอย่างเขาก็ไม่เคยอยู่เฉย
เจบีไม่ตอบแต่กลับถามย้ำอีกครั้ง ทว่าโรมเองก็ไม่ยอมหลุดปากจนกว่าจะได้สิ่งที่ต้องการ
"... ถ้านายไม่ตอบ แล้วฉันจะบอกนายให้ได้อะไรขึ้นมา"
"..."
"ถ้าไม่มีอะไรจะพูด... ฉันไปเรียนหละ.."
"เดี๋ยว!!"
เจบีเอ่ยรั้ง สำนึกได้ว่าหากเขาไม่ทำอะไรสักอย่างมันคงสูญเปล่า
"...ว่ามา"
"คือฉัน..." เจบียังคงอ้ำอึ้ง ซึ่งมันก็ไม่แปลกเพราะนอกจากสถานะเพื่อนเขาเองก็ไม่ได้มีสถานะไหนดีไปกว่าคนอื่นเลย
"พอเหอะ! ... น่ารำคาญจริงๆ เล้ย.." โรมบ่นพลางล้วงอะไรบางอย่างจากกระเป๋ากางเกงและยื่นให้
เจบีรับมาอย่างงงๆ เขาก้มลงอ่านมันก็พบว่าเป็นนามบัตรโรงแรมแห่งหนึ่งในต่างจังหวัดทางภาคเหนือ
บรรยากาศของผับที่อยู่ภายในโรงแรมทำเอาคนที่เพิ่งมาถึงแปลกใจ จำนวนคนที่แน่นขนัดจนถึงขั้นเดินลำบาก พื้นที่ภายในก็แทบไม่มีที่ว่าง แต่ก็ยังอุตส่าห์มองหาใครบางคนเจอจนได้
ร่างสูงรอจังหวะที่เธอออกมาด้านนอกจึงรีบสาวเท้าเข้าไปหา
"กอหญ้า!"
เจ้าของชื่อหันขวับก่อนจะสะบัดหน้ากลับไปและเดินต่อเมื่อเห็นว่าใครเป็นคนเรียก
มือหนาคว้าข้อมือบางจนเธอต้องหันมา บิกินี่ตัวจิ๋วกับกางเกงขาสั้นกุดทำให้เขาไม่ค่อยพอใจนักทว่าใบหน้าที่แดงจนสังเกตเห็นได้ชัดนั้นบ่งบอกถึงระดับแอลกอฮอล์ได้ดี
"มาหาฉันใช่ไหม? งั้นรอเดี๋ยว!"
หญิงสาวสะบัดมือออกแล้วเดินหายเข้าไปทางประตูอีกด้านทิ้งให้เจบีงงเป็นไก่ตาแตกเพราะไม่เคยเห็นโหมดนี้มาก่อน เพียงไม่นานนักประตูบานเดิมก็เปิดออก มือบางจับแขนเจบีที่ยืนรอให้ตามมาซึ่งเขาก็ตามมาอย่างว่าง่าย
ประตูลิฟท์เปิดออกทันทีที่ถูกกดเรียก กอหญ้าเดินเซเสียจนเจบีต้องถลาประคอง แต่ก็ยังอุตส่าห์พาตัวเองมาถึงห้อง
ห้องนี้เป็นเพียงห้องสตูดิโอธรรมดาไม่ได้แยกเป็นนอนและห้องรับแขก ทว่ากอหญ้าเองเมื่อถอดรอดเท้าเสร็จก็ทิ้งตัวลงบนเตียงใหญ่ทันทีเจบีจึงได้รู้ว่าเธอเมามาก
"มีอะไรก็พูดเลย ฉันฟังอยู่" เธอพูดทั้งที่ยังหลับตาเพราะอาการปวดหัวตุบเริ่มเล่นงานเข้าให้
"ฉันพูดตอนเธอสร่างดีกว่า"
ไม่อยากจะบอกว่าเห็นสภาพแล้วเขาแทบไม่อยากจะพูดอะไรเลยสักคำ
เจบีหย่อนตัวลงนั่งที่ขอบเตียงก่อนจะใช้หลังมืออังที่หน้าผากและคอของอีกคนท่าทางปวดหัวนั่นทำเขานึกสงสาร
"ประโคมดื่มไปเท่าไหร่ถึงทรมานขนาดนี้เนี่ย" เขาบ่นเบาๆ
"... ยี่สิบ สามสิบ หลายอยู่... " ถึงไม่ได้ถามแต่ก็ได้คำตอบ
แสงจากหน้าจอโทรศัพท์ที่วางข้างๆ ตัวสว่างวาบ เขาเขย่าตัวเจ้าของเครื่องเบาๆ แล้วส่งให้ดูแต่เธอกลับไม่สนใจแถมยังบอกให้เขารับให้อีกต่างหากเมื่อเห็นว่าปลายสายคือแจ็คสัน
แต่เจบีน่ะหรือจะกดรับ... ไม่มีทางหรอก
"คุณยังเกลียดฉันอยู่ไหม? ... ถ้าตอนนี้ไม่ อนาคตก็ไม่แน่หรอก"
เจบีที่เดินออกมาจากห้องน้ำได้ยินแค่ปลายประโยคซึ่งบอกได้เลยว่าเขาไม่เข้าใจ ผ้าผืนไม่ใหญ่นักถูกชุบน้ำบิดหมาดมาซับตามใบหน้าและลำคอที่ร้อนผ่าว
"เฮ้อ..."
เจบีถอนหายใจเบาๆ เมื่ออีกคนหนึ่งเงียบไปแล้ว ดูเหมือนเธอจะผลอยหลับไป เขานั่งพินิจใบหน้าหวานอย่างคาดเดาไม่ถูกแค่รู้สึกว่าไม่อยากเห็นเธอเป็นแบบนี้แถมการเลือกที่จะหายมาทำงานไกลถึงนี่เป็นอาทิตย์ก็ดูน่าเป็นห่วง
ทว่ามือบางของคนที่คิดว่าหลับกลับยัดโทรศัพท์ใส่มือมาให้ทั้งที่มีเสียงดังจากปลายสายอีกด้านลั่นออกมา
"ครับ..." เขาตอบรับอย่างจำใจเพราะถูกกดรับไปแล้ว
[นั่นใคร?] อีกทางก็ส่งเสียงห้วนมาให้
"เอ่อ.. ผม.. พนักงานร้านอาหารครับ" เจบีตัดสินใจโกหก
[แล้วยังไง?]
"คือคุณลูกค้าทำหล่นไว้น่ะครับ คาดว่าพรุ่งนี้คงมาแจ้งที่เคาน์เตอร์ ทางร้านจะทำเรื่องคืนให้ครับ"
เจบีโดนคนเมาเล่นงานแบบไม่ทันตั้งตัว เขาไม่รู้หรอกว่าระบบร้านอาหารจะอะไรยังไงเพราะคงต้องโกหกเอาตัวรอดไปก่อน ไม่อย่างนั้นแจ็คสันคงเดือดน่าดูเพราะเวลานี้ก็ตีสามกว่าเข้าไปแล้ว โชคยังดีที่เจ้าตัวไม่ดึงดันที่จะถามอะไรมากมายจนสร้างเรื่องน่าเวียนหัว
วันรุ่งขึ้นภายในห้องอาหารมื้อเช้า ทั้งคู่ก็พบกันอีกครั้งเพราะเจบีตัดสินใจที่จะเปิดห้องโรงแรมด้วยความเป็นห่วงอีกคนที่ยังคุยกันไม่รู้เรื่อง
กอหญ้าในท่าทางปกติทำให้เขาแปลกใจ แถมดูเหมือนว่าจะไม่มีความจำเกี่ยวกับเมื่อคืนอยู่เลยด้วยซ้ำ จนเจบีที่ถือจานอาหารไปนั่งโต๊ะเดียวกันยังแอบงงที่เป็นแบบนั้น
"คุณมาทำอะไรที่นี่เหรอ?" สรรพนามที่แปลกไปทำให้เจบีเลิกคิ้ว
"...."
"ถามไม่ตอบ... หยิ่งสินะ"
"... มารับกลับ"
พอได้ยินน้ำเสียงแสนกวนก็ตอบกลับไปแบบแทบไม่คิดจนอีกคนเลิกคิ้วบ้าง
"ทำไมต้องมารับ?"
"เป็นห่วง"
คำตอบสั้นๆ ง่ายๆ ทำเอาคนถามชะงักและเสยกน้ำขึ้นดื่ม บางทีเธอก็ไม่คิดว่าเจบีจะพูดอะไรแบบนี้ออกมา
"กว่าจะจบงานอีกสองวัน รอได้หรือไงคะ?"
"ถ้าให้รอก็รอ แต่จะทำยังไงให้ไม่ต้องทำงานอีกสองวันนั้นได้บ้าง?"
เขาเห็นจากเมื่อวานที่เธอต้องเดินแบบบิกินี่ทำให้รู้สึกไม่อยากให้ต้องทำงานเปลืองตัวขนาดนั้นในขณะที่ค่าตอบแทนน้อยนิดจนแทบไม่คุ้ม หญิงสาวส่ายหน้าเบาๆ บางทีเธอก็ไม่เข้าใจเหตุผลของคนตรงหน้าว่าต้องการอะไรกันแน่
สุดท้าย... ทั้งสองวันก็มีแค่เพียงรอบแรกที่เห็นกอหญ้าเดินชุดท้อปบิกินี่เพราะเจบีลงทุ่มเงินจ่ายให้ทางคลับเพื่อไม่ให้เธอต้องโชว์ในสองรอบที่เหลือของแต่ละวันและรอรับกลับด้วยกันในเช้าวันถัดจากคืนจบงาน
ความเงียบปกคลุมมาหลายชั่วโมง มีเพียงบทสนทนาเล็กน้อยหลังจากที่รถออกจากโรงแรมเป็นระยะ ดวงหน้าหวานนั่งเท้าคางมองไปด้านนอกตัวรถโดยที่ไม่ได้พูดอะไร จนเจบีเริ่มทนไม่ไหว... มือหนาหักพวงมาลัยเข้าปั๊มน้ำมันที่อยู่ไม่ไกลก่อนจะหันมาทางคนที่นั่งอีกฝั่งโดยใช้ศอกวางบนพวงมาลัยเพื่อยันตัวเองไว้เพราะเห็นว่าใกล้ที่พักของเธอเต็มที
"ฉันไม่ได้มาหาเรื่องนะ! มีอะไรก็คุยกันได้นี่!"
"...ฉันกำลังจะขึ้นปกหนังสือเครืออิมแม็กกาซีนสามเล่มรวด" กอหญ้าหันมาตอบเน้นคำจนคนถามหน้าตึง
"ทำไม?" เจบีพึมพำเสียงเบา
"เพราะมันเป็นสัญญาที่เซ็นต์ไปแล้ว.."
"แล้วทำไมฉันไม่รู้.."
"แต่พ่อคุณรู้..."
"หึ!... คนอื่นแคสงานให้ได้ลงซักรูปในหนังสือ แต่สำหรับเธอ!... หวังจะมาสแครชแล้วลงปกเลยงั้นสิ!"
"โห.. ไอ้... ! " ใจหนึ่งก็อยากจะด่าให้เจ็บใจเล่นๆ น้ำเสียงและท่าทีที่เปลี่ยนไปทำให้กอหญ้ายิ้มบางอย่างหยันตัวเอง
"ด่าสิ! รับความจริงไม่ได้ก็ด่าเลย... แต่ระวังตอนฉัน 'เอาคืน' ให้ดีก็แล้วกัน!"
กอหญ้าหันไปคว้ากระเป๋าที่เบาะหลังก่อนจะเปิดประตูรถแล้วก้าวฉับๆ จากไป ทิ้งให้เจบีหัวฟัดหัวเหวี่ยงเพราะคิดว่าเรื่องนี้มันต้องมีซัมติงกับพ่อของเขาไม่ผิดแน่ มือหนาฟาดลงบนพวงมาลัยแรงๆ อย่างหงุดหงิด