THE X – Unit 17
มาร์คนั่งมองจอมอนิเตอร์จอยักษ์อยู่ในห้องทำงานด้วยสายตาเคร่งเครียดเมื่อยูคยอมสังเกตเห็นอะไรแปลกๆ
จากมุมหนึ่งของกล้องวงจรปิดภายในร้านและเรียกให้เขาดูจนต้องสลับหน้าจอขึ้นมาเพื่อดูให้แน่ชัด
และมันก็ชัดจริงๆ เสียด้วย
มาร์ครู้สึกภูมิใจนิดๆ ที่ตัวเองเลือกลงทุนติดกล้องระดับเอชดีขนาดนี้ให้กับคลับในความดูแลของตัวเองหรือบางทีเขาควรจัดการเปลี่ยนมันทุกที่ในเครือเลยดีนะ
(ใช่เวลาไหมมาร์ค -_-)
"ผมควรไปดูกอหญ้าหน่อยไหม
เผื่อ..."
"ไม่ต้อง!!"
มาร์คสวนขึ้นทันควันทั้งที่ยูคยอมยังพูดไม่จบเลยด้วยซ้ำ
ยูคยอมหันมามองมาร์คอย่างงงๆ ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่ากอหญ้ามีเขาเป็นเพื่อนแค่คนเดียวที่อยู่ที่นี่ในตอนนี้แต่ยังออกปากห้ามไว้
"ไอ้เจบีก็อยู่ มึงจะไปทำไม?
ไม่เห็นเหรอว่ามันแทบจะอุ้มเพื่อนมึงอยู่แล้วนั่น!"
แหม...
บางทีก็ยังแอบหวงแต่ไม่กล้าแสดงออกอยู่นะ
ยูคยอมหันกลับไปที่หน้าจออีกครั้งก็เจอสิ่งที่อึ้งยิ่งกว่าฉากจูบสะท้านสายตาคือแจ็คสันยังคงจูบกับสาวเซ็กซี่จนแทบเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันแต่องศาของหน้ายังคงหันไปทางที่กอหญ้าและเจบีเดินออกไป
"มึงรอคว้าไอ้แจ็คสันเถอะ
เดี๋ยวแม่งพังร้านกู"
"พี่กลัวร้านพังแต่พี่ไม่กลัวผมเจ็บตัวบ้างเหรอวะ.."
"มึงถึกจะตายห่า ไม่เป็นอะไรง่ายๆ
หรอกน่ะ!" มาร์คบ่นอย่างรำคาญ
"งั้นขอทำประกันเผื่อเจ็บไว้ก่อนละกันนะ!"
จุ้บ!!...
ยูคยอมก้มลงขโมยจูบรุ่นพี่หน้าหล่อที่ใจดีกับสาวแต่ดุเยี่ยงล็อตไวเลอร์สำหรับเขาด้วยความเร็วเหนือแสงก่อนจะวิ่งปรู๊ดออกไปเฝ้าแจ็คสันตามคำสั่งแบบไม่เหลียวหลังเพราะหากช้าอาจโดนมาร์คประเดิมกระทืบเข้าให้
"ไอ้เวรยูค!! มึง..!!"
มาร์คยกปลายนิ้วขึ้นถูกปากอย่างเอาเป็นเอาตายที่ถูกรุ่นน้องตัวแสบฉวยโอกาสหน้าด้านๆ
ยูคยอมยืนควงแก้วเหล้าเล่นอยู่แถวหน้าบาร์เพื่อรอลากแจ็คสันกลับตามคำสั่งของมาร์ค
ด้วยนิสัยเสียอีกอย่างของแจ็คสันคือหากหงุดหงิดและดื่มจนเมาเมื่อไหร่วิญญาณบาร์เทนเดอร์จะเข้าสิงแล้วเมื่อนั้นบาร์เหล้าของคลับคงกระเจิดกระเจิงอีกเป็นแน่เพราะเหตุการณ์แบบนั้นเคยเกิดขึ้นมาแล้วไม่ต่ำกว่าสองครั้งในช่วงปีที่ผ่านมา
"ทำไมไม่พุ่งใส่กันให้รู้แล้วรู้รอดกันไปเลยวะ!"
ยูคยอมส่ายหน้าเบาๆ ตาก็ยังจับจ้องรุ่นพี่สายโหดที่คั่วสาวไม่เลิก
"เอาตังกูไปเปิดโรงแรมไหมถ้าจะ
.. อะหื้มมมมม ขนาดน้านนนนน" ว่าพลางกระดกเหล้าเข้าปากไปอีกรอบ
และโปรดอย่าถามว่าคิมยูคยอมคุยอยู่กับใคร ขอบอกอย่างไม่อายเลยว่า...
พูดคนเดียว
แถมพูดด้วยความเซ็งล้วนๆ ด้วยเถอะ!
แต่รอได้ไม่นานนักภารกิจที่ได้รับมอบหมายก็เริ่มดำเนินการเมื่อแจ็คสันเดินมาทางบาร์
"พี่แจ็คสัน!!"
"มีไร!?"
"พี่มาร์คให้มาตาม"
"ตามทำเชี่ยไร!
ไปบอกแม่งไว้คุยกันทีหลัง!"
"เฮ้ยพี่!"
ยูคยอมรั้งแขนแจ็คสันเอาไว้และการกระทำแบบนี้เป็นสิ่งที่เสี่ยงเจ็บตัวเสียด้วย
"ปล่อยกู!ไอ้ยูค!"
แจ็คสันตวาดจนยูคยอมรู้ว่าคนตรงหน้าเอาจริง เขาไม่อยากมีเรื่องกับแจ็คสันและที่สำคัญไม่อยากถูกมาร์คด่าแล้วเขาจะทำยังไงล่ะทีนี้
"พี่มาร์คจะคุยกับพี่...
เรื่อง... เรื่องกอหญ้า"
ชื่อเดียวที่แวบเข้ามาในหัว ...
ชื่อเดียวที่คิดว่าน่าจะมีอิทธิพลไม่มากก็น้อย
...
ชื่อเดียวที่ยูคยอมฝากความหวังเอาไว้ ...
... แล้วก็ได้ผลเสียด้วย
"มันอยู่ไหน?"
"ห้องทำงาน"
แจ็คสันเปลี่ยนเส้นทางไปหามาร์คทันที แค่นี้ก็หมดหน้าที่ของยูคยอม
รอบนี้ไม่เจ็บตัวอย่างที่คาด
แต่ประกันเผื่อเจ็บที่เก็บมา
ถือซะว่าพี่มาร์คคืนกำไรให้แล้วกัน
ประตูออฟฟิศถูกเปิดพรวดโดยไม่มีการเคาะให้เสียเวลาทำให้มาร์คสะดุ้งเพราะไม่คิดว่าแจ็คสันจะเข้ามา
"มีอะไรจะคุยกับกูไอ้มาร์ค!?"
มาร์คยกนิ้วชี้หันหาตัวเองพร้อมเลิกคิ้วสูงประมาณว่าเขาเนี่ยนะ...
แต่พลันนึกได้ว่าคนที่โบ้ยมาให้คงเป็นใครไม่ได้นอกจากยูคยอม
เออ... เอางั้นก็ได้
"กูแค่สงสัย...
ว่าทำไมมึงมันเจ้าชู้ เด็กเยอะ" เมื่อคิดอะไรไม่ทันมาร์คก็มั่วถ่วงเวลาไปก่อน
"มึงถามตัวเองไหมไอ้คาสโนว่าตัวพ่อ"
แจ็คสันยืนล้วงกระเป๋ากางเกงมองมาร์คด้วยท่าทางกวนๆ
"เด็กมึงก็เยอะ
กูว่ามึงเลิกยุ่งกับกอหญ้าเหอะ เด็กป๊ามึงไม่ใช่หรือไง ปล่อยไปสักคน"
มาร์คเข้าเรื่องจนได้
เพราะเขาคิดว่าพูดอ้อมไปก็เสียเวลาสู้ว่ากันโต้งให้รู้เรื่องรู้ราวกันไปเลยก็ไม่ได้
"ถามหน่อย...เป็นมึงจะรู้สึกยังไง
ถ้าไอ้ยูคที่เรียกมึงพี่มาร์คทุกวัน แล้วอยู่ดีๆมาเรียกมึง มิสเตอร์ต้วน
หรือลูกชายผู้บริหารเครือทีเอ็น"
"อย่าบอกนะว่า.. "
"ใช่!..
กูเองที่ยัดตำแหน่งเด็กของป๊าให้กอหญ้าจะได้ไม่มีใครกล้ายุ่ง!
เพราะกูรู้ว่าทุกคนก็คิดแบบนั้น
แถมป๊ากูก็เอ็นดูกอหญ้ามากแม้บางทีก็เกินไปหน่อยจนกูเครียดไม่เว้นแต่ละวัน
แต่พอป๊ากูพูดว่าถ้ากูขอเขาก็จะให้ ทำให้กูคิดว่า... นี่กูกำลังพลาดอะไรไป
แล้วแบบนี้มันคืออะไรวะไอ้มาร์ค!?"
"เอ่อ..."
มาร์คถึงกับติดอ่างชั่วขณะ
"สำหรับกอหญ้า...
กูอาจเป็นได้แค่ลูกชายคุณหวัง! ไม่ใช่ผู้ชายที่ชื่อแจ็คสันอีกแล้วละมั้ง"
"แล้วทำไมมึงไม่พูดกับเค้าตรงๆ
มึงจะต้องสร้างเรื่องให้มันยุ่งทำไม!?" บางทีมาร์คก็โคตรจะไม่เข้าใจความคิดแจ็คสัน
หวังเอาเสียเลย
"กะ..กู... "
แจ็คสันอึกอักก่อนจะถอนหายใจหนักๆ
"กูก็... ทำเรื่องไว้"
นั่นประไร...
ความจริงหมดในคราวเดียวไม่มีในพจนานุกรมของแจ็คสัน หวัง
"เรื่องอะไรของมึงอีกล่ะ"
มาร์คชักรำคาญไอ้เพื่อนเรื่องเยอะแต่กว่าจะอ้าปากพูดแต่ละทียืดยาดเหลือเกิน
"กอหญ้าเจอซองฟรอยด์ใช้แล้วในรถว่ะ..
แล้วก็ลงรถไปเลย กลับมาเจอกันอีกทีก็ตอนป๊าพามาที่บริษัท"
มาร์คฟังแล้วอยากร้องหายาดมคู่แฝด
นี่มันความผิดพลาดครั้งใหญ่เลยนะ
"ไอ้เชี่ยแจ็ค! เป็นกู..
กูก็ไม่อยากเจอ ไม่อยากจำหรอก คนอย่างมึง! คดีซองถุงยางยังไม่เคลียร์
เสือกมีหน้าไปก่อเหตุจูบท้าสายตาขนาดนั้น!"
"มึงรู้ได้ไง"
"แหกตาดูซะ
นี่กล้องร้านก็ไม่ได้ติดไว้ประดับร้านเล่นๆนะมึง" มาร์คเคาะลงบนจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ที่แขวนอยู่
"แต่กูทำขนาดนั้น
..ยังไม่รู้สึกอะไร แถมเดินไปกับไอ้เจบีเฉยๆ เลย"
"เฮอะ!
เค้าเป็นอะไรกับมึงถึงต้องรู้สึก
แล้วจะต้องแสดงออกยังไงมึงถึงจะพอใจ...แล้วพอใจจริงเหรอ? ถ้ากูเป็นไอ้เจบีมึงโดนต่อยคว่ำไปแล้ว
ไอ้ควาย.. ยิ่งมันชะ.. เฮ้อ ช่างแม่ง" มาร์คยั้งปากไว้ทันแล้วเสเปลี่ยนเรื่อง
"ไป
กูไปส่งมึงที่บ้าน"
"ไม่ต้อง!"
"ถ้ามึงไม่ฟังกูจะโทรฟ้องป๊าเดี๋ยวนี้แล้วบอกว่ามึงทำอะไรไว้บ้าง!"
"มึงกะแบล็คเมล์กูเหรอ?"
"นี่กูทำเพื่อมึงนะ
เพราะกูรู้ถ้าปล่อยมึงไป มึงจะไปไหนและนั่นไม่เป็นผลดีแน่ๆ เชื่อกูบ้างไอ้แจ็ค
หรือลองคิดดูว่ามึงทำพลาดไปกี่ครั้งแล้ว"
ยูคยอมถูกมาร์คใช้ให้ขับรถตามมารับที่บ้านแจ็คสันเพราะเขาเป็นคนขับรถของแจ็คสันพร้อมเจ้าของมาส่งที่บ้านด้วยตัวเอง
ทันทีที่แจ็คสันก้าวเข้าไปในบ้านมาร์คก็กลับมาที่ยูคยอมจอดรถรอไว้
"กลับไหนพี่?"
"บ้านกูสิ"
"แต่ผมง่วง...
งั้นขับกลับบ้านผมเลยนะ" ยูคยอมออกรถราวกับการตกลงได้จบแล้วทว่าความจริงไม่เลยสักนิด
"ไอ้ยูค
คือมันถึงบ้านกูก่อนป่ะวะ" มาร์คค้านนิ่งๆ
"แต่ผมจะทำให้ถึงบ้านผมก่อนมีปัญหาอะไรไหมครับพี่มาร์คคนสวย..."
ยูคยอมยิ้มตาหยีอย่างไร้เดียงสามาให้จนมาร์คต้องเมินหน้าหนี
แต่ก็ยังแอบด่าในใจ
"ไอ้เด็กตีสองหน้า!"
ยูคยอมขับรถของมาร์คเข้าจอดในบ้านตัวเองโดยไม่ถามความสมัครใจของเจ้าของแต่หากถามก็คงไม่ได้คำตอบเพราะมาร์คกำลังรัวแชทกับแจ็คสันอย่างเอาเป็นเอาตาย
เงยหน้าขึ้นมาอีกทียูคยอมก็เดินมาเปิดประตูรถให้เสียแล้ว
บ้านยูคยอมเงียบมากเพราะเขาอยู่คนเดียว มาร์คมองหลายๆ
อย่างที่เปลี่ยนไปจากช่วงแรกด้วยความแปลกตา
"แต่งบ้านใหม่เหรอ?"
"ไม่ได้แต่งใหม่
แค่จัดของนิดหน่อย"
ขายาวก้าวนำขึ้นชั้นสองไปเรื่อยๆโดยมีอีกคนคอยตาม
ประตูตู้เสื้อผ้าถูกเปิดโดยคนที่ไม่ใช่เจ้าของบ้านก่อนจะยู่ปากนิดๆ
เมื่อหาเสื้อผ้าของตัวเองไม่เจอ
"ยูค... ชุดกูล่ะ"
"หาดีแล้วยัง? ถ้าไม่มีคงเอาไปซักมั้ง?" ยูคยอมเอ่ยเรื่อยๆ
แล้วเดินมารื้อหาอยู่สักพักก็ยื่นเสื้อยืดแขนสั้นยัดใส่มือมาร์ค
"อ้ะ.."
"โห...นี่เสื้อคนหรือเสื้อหมี!?"
มาร์คอุทานเมื่อลองทาบขนาดกับตัวเอง
"ใส่ๆ ไปเถอะน่า
ส่วนกางเกงจะใส่ไม่ใส่ก็แล้วแต่เลย"
"ดูปากพี่มาร์คนะน้องยูค
ไอ้-เชี่ย"
มาร์คเดินเข้าห้องน้ำไปแล้ว
ส่วนยูคยอมก็เดินออกไปหยิบเหยือกน้ำเย็นพร้อมแก้วสองใบใส่ถาดมาวางไว้ในห้องเพราะหากตื่นขึ้นมาหิวน้ำจะได้ไม่ต้องเดินไกลก่อนจะวิ่งไปอาบน้ำอีกห้องด้วยความไวแสง
มาร์คออกมาจากห้องน้ำก็เห็นยูคยอมนั่งพิงหัวเตียงกดเกมส์เล่นอย่างเมามันส์ก่อนจะวางเกมส์ไว้ที่โต๊ะข้างเตียงเมื่อเห็นมาร์คทำท่าจะนอน
"ผมเอาน้ำมาวางไว้ให้
พี่จะได้ไม่ต้องเดินไกล แล้วนี่กินก่อนนอนจะได้หลับสบาย"
ยูคยอมเดินไปหยิบแก้วน้ำมาให้ซึ่งมาร์คก็ทำหน้ารับรู้
จากนั้นก็รับแก้วน้ำของรุ่นน้องมายกดื่ม
แต่เมื่อไหลลงคอไปแค่นิดเดียวก็รู้ทันทีว่ามันเป็นเหล้า! ไม่ใช่น้ำเปล่า!
มาร์คเบิกตากว้างแล้วหันซ้ายหันขวาเตรียมบ้วนทิ้งแต่ยูคยอมไวกว่า
ริมฝีปากของรุ่นน้องประกบลงที่ปากของคนเป็นพี่เพื่อสะกัดกั้นไม่ให้ทิ้งแถมทั้งยังกดจูบแนบแน่นและเป่าลมใส่เล่นๆ เพื่อให้ของเหลวในปากไหลลงคอพี่ชายหน้าสวยเป็นการบังคับให้กลืนมันลงไป
ทั้งมือแข็งแรงยังกระชับต้นคอระหงไม่ให้ขยับออกอีกต่างหาก
สุดท้ายมาร์คก็แพ้เพราะหายใจไม่ออกและยูคยอมไม่ยอมปล่อยทำให้จำต้องกลืนเหล้าแก้วใหญ่ที่พลาดยกดื่มลงคอไปทั้งหมดแล้วมันน้อยเสียที่ไหน
... เต็มแก้วในคราวเดียว ถึงขั้นมึนตึ้บ
"คราวนี้น้ำจริงๆ
หึหึ..."
ยูคยอมยื่นน้ำที่เพิ่งเทมาใหม่ให้มาร์คดื่มอีกครั้งเพราะดูจากอาการคงคอแห้งไม่น้อย
ใจนึงมาร์คก็อยากจะโบกไอ้เด็กหมียักษ์ตรงหน้าแต่หากเหวี่ยงมือไปแล้วไม่โดนหัวคงเจ็บใจน่าดู
งั้นเอาไว้ก่อนก็แล้วกัน
ยูคยอมทิ้งตัวลงนอนข้างมาร์คที่ยกมือกุมขมับด้วยความมึนเฉียบพลันด้วยรอยยิ้ม
รุ่นน้องนอนตะแคงยกมือท้าวศีรษะมองคนเป็นพี่ก่อนจะห่มผ้าให้
มือหนาเลื่อนมือมาเกลี่ยปอยผมสีแดงที่ปรกตาอยู่ให้จากนั้นก็เริ่มไล้นิ้วเล่นไปตามสันจมูกสวยอย่างแผ่วเบาทั้งที่คนพี่ยังกุมขมับที่เต้นตุบๆ
ไม่หยุด
ปลายนิ้วยาวไล่สัมผัสสันกรามได้รูปจนมาแตะผิวเผินอยู่ที่ริมฝีปากนุ่มสีเชอรี่
รุ่นน้องผิวขาวจัดการพลิกรุ่นพี่ตัวบางหันตะแคงหาตัวเองก่อนจะเริ่มรุกล้ำด้วยการใช้ริมฝีปากของตัวเองกดย้ำๆ
เป็นการหยั่งเชิงแต่เมื่อมันได้รับการตอบสนองจากลิ้นร้อนอันแสนนุ่มนวล
เด็กรุ่นน้องก็เริ่มไล่ควานความหวานที่โหยหามาตลอดแต่ถูกปฏิเสธแล้วปฏิเสธเล่าจนน่าน้อยใจ
เมื่อคนหนึ่งก็ขึ้นชื่อว่าคาสโนว่า...
อีกคนก็เป็นจอมเจ้าเล่ห์...
แค่รสจูบคงไม่ต้องมีใครยอมใครให้หอบเหนื่อยหรือขาดอากาศหายใจ
แถมตอนนี้ร่างของมาร์คก็คร่อมอยู่บนตัวของยูคยอมด้วยฝีมือของคนที่อยู่ใต้ร่างและเสื้อตัวโคร่งที่เคยยื่นให้ใส่ก็ไม่ได้อยู่บนกายอีกต่อไปแล้ว
"อะ... อื้มมม... พะ..พอ
พอแล้ว.."
เสียงสั่นๆ
ของมาร์คร้องห้ามเมื่อมือสากของรุ่นน้องตัวโตลูบลากผ่านแทบทุกส่วนของร่างกายบางพร้อมขบเม้มเค้นคลึงทิ้งความเสียวซ่านเอาไว้ให้แต่ยูคยอมยอมหยุดง่ายๆ
เสียที่ไหน
ยูคยอมไม่เคยมีอะไรลึกซึ้งกับมาร์ค
และมาร์คก็พยายามเลี่ยงที่จะอยู่กับยูคยอมแค่สองคน
เพราะเรื่องแบบนี้ไม่ได้เกิดครั้งแรก
คนหนึ่งระวังตัวอยู่ตลอดส่วนอีกคนก็เจ้าเล่ห์หาที่เปรียบไม่ได้...
ก็ดูอย่างวันนี้สิ
ร่างหนาจับร่างของคนเป็นพี่ลงแล้วสลับขึ้นคร่อมร่างแทน
นอกจากเสื้อที่หายไปเจ้าบ็อกเซอร์ที่เคยสวมก็กำลังจะหลุดออกจากร่างไปด้วยเหมือนกันด้วยฝีมือของยูคยอมเช่นเดิม
ดวงตาแสนซื่อฉายแววซุกซน
สิ่งที่เขาชอบมากที่สุดคือการที่ได้เห็นสีหน้าและการตอบสนองเมื่อถูกตัวเขาสัมผัสจากคนที่ถูกตั้งฉายาว่าคาสโนว่าหน้าสวยคนนี้ต่างหาก
ไม่ใช่แค่หลงใหลแต่มันคือความรัก...
ถึงแม้ยูคยอมจะพยายามเปิดใจชอบคนอื่นบ้างแต่สุดท้ายเขาก็รักคนอื่นไม่ได้
แต่มาร์คกลับไม่ยอมรับมันเสียที
ลิ้นร้อนไล้วนและพรมจูบอยู่แถวซอกคอขาว
ส่วนมือก็ลากผ่านแกนกลางลำตัวที่ไร้เนื้อผ้าอย่างจงใจ
มาร์คร้องฮือทันทีที่ของตัวเองที่กำลังขยายถูกสัมผัสด้วยมือและเสียดสีของอีกคนผ่านเนื้อผ้า
ยูคยอมเลื่อนตัวเองลงมาที่หว่างขาขาวของร่างบางไม่ลืมที่จะลากจูบอุ่นๆ
ทิ้งทวนตามรายทางจนอีกคนบิดเร่า
"ซี๊ด.. อ่า.."
มาร์คซี๊ดปากแรงแล้วกัดปากล่างแน่นอย่างข่มอารมณ์เมื่อยูคยอมคว้ามือของมาร์คมาวางแหมะที่แกนกายของมาร์คเองและจัดการรูดขึ้นลงเป็นจังหวะโดยมีมือของยูคยอมซ้อนอยู่ด้วยแต่ริมฝีปากยังขบเม้มที่ต้นขาที่ถูกจับยกชันขึ้นทั้งสองข้าง
สุดท้ายมาร์คก็ทนไม่ไหวจนต้องขยับมือรูดรั้งถี่รัวตามธรรมชาติโดยปล่อยให้ยูคยอมทำหน้าที่ปลุกเร้าให้อย่างชำนาญ
สะโพกเนียนยกเกร็งเมื่อปลายนิ้วของอีกคนทำท่าจะเข้าใกล้ช่องทางที่ไม่เคยผ่านการรุกล้ำ รุ่นน้องตัวโตยกยิ้มอย่างสมใจที่ทำให้มาร์คสติหลุดได้
เสียงครางหวานที่โปรดนักกำลังดังกระชั้นพร้อมแรงหายใจหอบ
ยูคยอมรั้งมือคนเป็นพี่ไว้ก่อนจะโหมจูบอย่างเร่าร้อนซึ่งต่อให้มาร์คหายมึนจากเหล้าแก้วใหญ่แก้วนั้นไปโขแต่ก็สู้อารมณ์ของตัวเองไม่ไหวแล้ว
"ผมมีอะไรจะบอก..."
ยูคยอมกระซิบแผ่วข้างใบหูเล็กของรุ่นพี่ตัวขาว
ไม่ทันที่จะนึกอะไรออกความเย็นแปลกๆ ก็สัมผัสเข้าที่ช่องทางด้านหลังของมาร์คจนเจ้าตัวสะดุ้ง
"ยูคยอม!"
มาร์คร้องเสียงหลง เขายกมือปัดป้องพร้อมกระถดตัวหนี
"ชู่วววววว...
ไม่ต้องตกใจนะครับที่รัก แค่เทส... สัญญา"
น้ำเสียงบวกกับหน้าตาใสซื่อออดอ้อนปลอบ รู้ทั้งรู้ว่าเชื่อไม่ได้แต่มาร์คก็เลือกจะเชื่อ
เพราะยูคยอมไม่เคยทำอะไรแบบนี้ ไม่เคยเลยจริงๆ
ร่างหนายกตัวขึ้นนั่งพิงหัวเตียงแล้วจับอีกคนนั่งคร่อมบนหน้าขาและดันให้เอนหลังบนขายาวที่ยกขึ้นชันของตัวเอง
นิ้วเรียวที่ชโลมเจลหล่อลื่นเริ่มกดสำรวจก่อนสอดนำร่อง
"อ๊า..~ ยะ ยูคยอม.."
คนถูกรุกล้ำหลุดคราง
หลังเนียนเอนแนบหน้าขาของยูคยอมด้วยความเจ็บระคนเสียว
มือบางจิกเล็บที่ลำตัวหนาของยูคยอมเพื่อระบายความซ่านสยิว
มือบางกลับมาทำหน้าที่อย่างห้ามตัวเองไม่ได้
เพียงนิ้วเดียวที่ขยับตรงจุดกระตุ้นก็ทำให้มาร์คแทบคลั่งแต่คนที่พรมจูบสร้างรอยคิสมาร์คไม่เลิกนั้นทรมานยิ่งกว่าเมื่อร่างกายของตัวเองเริ่มทนกับความต้องการแทบไม่ไหว
จุดอ่อนไหวกลางลำตัวคับแน่นจนคนด้านบนรู้สึกได้แถมยังลูบเค้นคลึงอย่างมันส์มืออีกต่างหาก
"ฮื้อ..อย่าเกร็งสิที่รัก"
คนตัวโตเอ่ยพร้อมโน้มตัวเข้าหาและส่งเรียวลิ้นร้อนหยอกล้อที่หน้าอกทั้งสองข้างจนเมื่อจะผละออกกลับถูกมือของอีกคนกดเอาไว้ไม่ให้ไปไหน
แถมมือบางขยุ้มกลุ่มผมหนาเพื่อระบายอีกต่างหาก
นิ้วเรียวถูกชักออก
ก่อนจะเริ่มเสริมจำนวนนิ้วเป็นสองสะโพกบางก็ยกสูงพร้อมกับมือที่ยังทำหน้าที่ไม่หยุดหย่อน
ตามมาด้วยเสียงครางสะท้านที่กำลังใกล้ถึงจุดปลดปล่อยในไม่กี่วินาทีข้างหน้า
"อึ้ก... อื้อ...
อ๊า..."
ยูคยอมกดจมูกแรงๆ
ลงบนแก้มขาวของรุ่นพี่ที่ทิ้งตัวอย่างเหนื่อยหอบ
การเป็นผู้ถูกกระทำมันต่างจากเป็นคนกระทำตรงที่รับความเสียวซ่านจนหมดเรี่ยวหมดแรง
เขาซับเหงื่อบนใบหน้าให้เบาๆ
อีกครั้งก่อนจะยกตัวมาร์คให้นอนดีๆ
แล้วเดินเข้าห้องน้ำทำภารกิจของตัวเองที่คั่งค้างจนสร้างความทรมานบ้าง
จากนั้นจึงกลับมาจัดการดูแลคนที่เพลียจนน่าหมั่นเขี้ยวอีกที
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น