วันอังคารที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2557

THE X - Unit 17 : [PG - 13]

THE X – Unit 17

มาร์คนั่งมองจอมอนิเตอร์จอยักษ์อยู่ในห้องทำงานด้วยสายตาเคร่งเครียดเมื่อยูคยอมสังเกตเห็นอะไรแปลกๆ จากมุมหนึ่งของกล้องวงจรปิดภายในร้านและเรียกให้เขาดูจนต้องสลับหน้าจอขึ้นมาเพื่อดูให้แน่ชัด
และมันก็ชัดจริงๆ เสียด้วย มาร์ครู้สึกภูมิใจนิดๆ ที่ตัวเองเลือกลงทุนติดกล้องระดับเอชดีขนาดนี้ให้กับคลับในความดูแลของตัวเองหรือบางทีเขาควรจัดการเปลี่ยนมันทุกที่ในเครือเลยดีนะ (ใช่เวลาไหมมาร์ค -_-)
"ผมควรไปดูกอหญ้าหน่อยไหม เผื่อ..." 
"ไม่ต้อง!!"  มาร์คสวนขึ้นทันควันทั้งที่ยูคยอมยังพูดไม่จบเลยด้วยซ้ำ
ยูคยอมหันมามองมาร์คอย่างงงๆ ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่ากอหญ้ามีเขาเป็นเพื่อนแค่คนเดียวที่อยู่ที่นี่ในตอนนี้แต่ยังออกปากห้ามไว้

"ไอ้เจบีก็อยู่ มึงจะไปทำไม? ไม่เห็นเหรอว่ามันแทบจะอุ้มเพื่อนมึงอยู่แล้วนั่น!"


แหม... บางทีก็ยังแอบหวงแต่ไม่กล้าแสดงออกอยู่นะ


ยูคยอมหันกลับไปที่หน้าจออีกครั้งก็เจอสิ่งที่อึ้งยิ่งกว่าฉากจูบสะท้านสายตาคือแจ็คสันยังคงจูบกับสาวเซ็กซี่จนแทบเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันแต่องศาของหน้ายังคงหันไปทางที่กอหญ้าและเจบีเดินออกไป
"มึงรอคว้าไอ้แจ็คสันเถอะ เดี๋ยวแม่งพังร้านกู" 
"พี่กลัวร้านพังแต่พี่ไม่กลัวผมเจ็บตัวบ้างเหรอวะ.."
"มึงถึกจะตายห่า ไม่เป็นอะไรง่ายๆ หรอกน่ะ!" มาร์คบ่นอย่างรำคาญ
"งั้นขอทำประกันเผื่อเจ็บไว้ก่อนละกันนะ!"


จุ้บ!!...


ยูคยอมก้มลงขโมยจูบรุ่นพี่หน้าหล่อที่ใจดีกับสาวแต่ดุเยี่ยงล็อตไวเลอร์สำหรับเขาด้วยความเร็วเหนือแสงก่อนจะวิ่งปรู๊ดออกไปเฝ้าแจ็คสันตามคำสั่งแบบไม่เหลียวหลังเพราะหากช้าอาจโดนมาร์คประเดิมกระทืบเข้าให้

"ไอ้เวรยูค!! มึง..!!"

มาร์คยกปลายนิ้วขึ้นถูกปากอย่างเอาเป็นเอาตายที่ถูกรุ่นน้องตัวแสบฉวยโอกาสหน้าด้านๆ

ยูคยอมยืนควงแก้วเหล้าเล่นอยู่แถวหน้าบาร์เพื่อรอลากแจ็คสันกลับตามคำสั่งของมาร์ค ด้วยนิสัยเสียอีกอย่างของแจ็คสันคือหากหงุดหงิดและดื่มจนเมาเมื่อไหร่วิญญาณบาร์เทนเดอร์จะเข้าสิงแล้วเมื่อนั้นบาร์เหล้าของคลับคงกระเจิดกระเจิงอีกเป็นแน่เพราะเหตุการณ์แบบนั้นเคยเกิดขึ้นมาแล้วไม่ต่ำกว่าสองครั้งในช่วงปีที่ผ่านมา

"ทำไมไม่พุ่งใส่กันให้รู้แล้วรู้รอดกันไปเลยวะ!"  ยูคยอมส่ายหน้าเบาๆ ตาก็ยังจับจ้องรุ่นพี่สายโหดที่คั่วสาวไม่เลิก

"เอาตังกูไปเปิดโรงแรมไหมถ้าจะ .. อะหื้มมมมม ขนาดน้านนนนน"  ว่าพลางกระดกเหล้าเข้าปากไปอีกรอบ และโปรดอย่าถามว่าคิมยูคยอมคุยอยู่กับใคร  ขอบอกอย่างไม่อายเลยว่า... พูดคนเดียว

แถมพูดด้วยความเซ็งล้วนๆ ด้วยเถอะ!

แต่รอได้ไม่นานนักภารกิจที่ได้รับมอบหมายก็เริ่มดำเนินการเมื่อแจ็คสันเดินมาทางบาร์

"พี่แจ็คสัน!!"   
"มีไร!?"
"พี่มาร์คให้มาตาม"  
"ตามทำเชี่ยไร! ไปบอกแม่งไว้คุยกันทีหลัง!"
"เฮ้ยพี่!"  ยูคยอมรั้งแขนแจ็คสันเอาไว้และการกระทำแบบนี้เป็นสิ่งที่เสี่ยงเจ็บตัวเสียด้วย
"ปล่อยกู!ไอ้ยูค!"  

แจ็คสันตวาดจนยูคยอมรู้ว่าคนตรงหน้าเอาจริง  เขาไม่อยากมีเรื่องกับแจ็คสันและที่สำคัญไม่อยากถูกมาร์คด่าแล้วเขาจะทำยังไงล่ะทีนี้

"พี่มาร์คจะคุยกับพี่... เรื่อง... เรื่องกอหญ้า"

ชื่อเดียวที่แวบเข้ามาในหัว ...


ชื่อเดียวที่คิดว่าน่าจะมีอิทธิพลไม่มากก็น้อย ...


ชื่อเดียวที่ยูคยอมฝากความหวังเอาไว้ ...


... แล้วก็ได้ผลเสียด้วย




"มันอยู่ไหน?"
"ห้องทำงาน"
แจ็คสันเปลี่ยนเส้นทางไปหามาร์คทันที  แค่นี้ก็หมดหน้าที่ของยูคยอม รอบนี้ไม่เจ็บตัวอย่างที่คาด
แต่ประกันเผื่อเจ็บที่เก็บมา ถือซะว่าพี่มาร์คคืนกำไรให้แล้วกัน
ประตูออฟฟิศถูกเปิดพรวดโดยไม่มีการเคาะให้เสียเวลาทำให้มาร์คสะดุ้งเพราะไม่คิดว่าแจ็คสันจะเข้ามา
"มีอะไรจะคุยกับกูไอ้มาร์ค!?"
มาร์คยกนิ้วชี้หันหาตัวเองพร้อมเลิกคิ้วสูงประมาณว่าเขาเนี่ยนะ... แต่พลันนึกได้ว่าคนที่โบ้ยมาให้คงเป็นใครไม่ได้นอกจากยูคยอม


เออ... เอางั้นก็ได้


"กูแค่สงสัย... ว่าทำไมมึงมันเจ้าชู้ เด็กเยอะ"   เมื่อคิดอะไรไม่ทันมาร์คก็มั่วถ่วงเวลาไปก่อน
"มึงถามตัวเองไหมไอ้คาสโนว่าตัวพ่อ"  แจ็คสันยืนล้วงกระเป๋ากางเกงมองมาร์คด้วยท่าทางกวนๆ
"เด็กมึงก็เยอะ กูว่ามึงเลิกยุ่งกับกอหญ้าเหอะ เด็กป๊ามึงไม่ใช่หรือไง ปล่อยไปสักคน"   มาร์คเข้าเรื่องจนได้ เพราะเขาคิดว่าพูดอ้อมไปก็เสียเวลาสู้ว่ากันโต้งให้รู้เรื่องรู้ราวกันไปเลยก็ไม่ได้
"ถามหน่อย...เป็นมึงจะรู้สึกยังไง ถ้าไอ้ยูคที่เรียกมึงพี่มาร์คทุกวัน แล้วอยู่ดีๆมาเรียกมึง มิสเตอร์ต้วน หรือลูกชายผู้บริหารเครือทีเอ็น"
"อย่าบอกนะว่า.. "
"ใช่!.. กูเองที่ยัดตำแหน่งเด็กของป๊าให้กอหญ้าจะได้ไม่มีใครกล้ายุ่ง! เพราะกูรู้ว่าทุกคนก็คิดแบบนั้น แถมป๊ากูก็เอ็นดูกอหญ้ามากแม้บางทีก็เกินไปหน่อยจนกูเครียดไม่เว้นแต่ละวัน  แต่พอป๊ากูพูดว่าถ้ากูขอเขาก็จะให้ ทำให้กูคิดว่า... นี่กูกำลังพลาดอะไรไป แล้วแบบนี้มันคืออะไรวะไอ้มาร์ค!?"
"เอ่อ..."    มาร์คถึงกับติดอ่างชั่วขณะ
"สำหรับกอหญ้า... กูอาจเป็นได้แค่ลูกชายคุณหวัง! ไม่ใช่ผู้ชายที่ชื่อแจ็คสันอีกแล้วละมั้ง"
"แล้วทำไมมึงไม่พูดกับเค้าตรงๆ มึงจะต้องสร้างเรื่องให้มันยุ่งทำไม!?"  บางทีมาร์คก็โคตรจะไม่เข้าใจความคิดแจ็คสัน หวังเอาเสียเลย
"กะ..กู... "   แจ็คสันอึกอักก่อนจะถอนหายใจหนักๆ
"กูก็... ทำเรื่องไว้"



นั่นประไร... ความจริงหมดในคราวเดียวไม่มีในพจนานุกรมของแจ็คสัน หวัง



"เรื่องอะไรของมึงอีกล่ะ"    มาร์คชักรำคาญไอ้เพื่อนเรื่องเยอะแต่กว่าจะอ้าปากพูดแต่ละทียืดยาดเหลือเกิน
"กอหญ้าเจอซองฟรอยด์ใช้แล้วในรถว่ะ.. แล้วก็ลงรถไปเลย กลับมาเจอกันอีกทีก็ตอนป๊าพามาที่บริษัท"
มาร์คฟังแล้วอยากร้องหายาดมคู่แฝด นี่มันความผิดพลาดครั้งใหญ่เลยนะ
"ไอ้เชี่ยแจ็ค! เป็นกู.. กูก็ไม่อยากเจอ ไม่อยากจำหรอก คนอย่างมึง! คดีซองถุงยางยังไม่เคลียร์ เสือกมีหน้าไปก่อเหตุจูบท้าสายตาขนาดนั้น!"
"มึงรู้ได้ไง"
"แหกตาดูซะ นี่กล้องร้านก็ไม่ได้ติดไว้ประดับร้านเล่นๆนะมึง"  มาร์คเคาะลงบนจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ที่แขวนอยู่
"แต่กูทำขนาดนั้น ..ยังไม่รู้สึกอะไร แถมเดินไปกับไอ้เจบีเฉยๆ เลย"
"เฮอะ! เค้าเป็นอะไรกับมึงถึงต้องรู้สึก แล้วจะต้องแสดงออกยังไงมึงถึงจะพอใจ...แล้วพอใจจริงเหรอ? ถ้ากูเป็นไอ้เจบีมึงโดนต่อยคว่ำไปแล้ว ไอ้ควาย.. ยิ่งมันชะ.. เฮ้อ ช่างแม่ง" มาร์คยั้งปากไว้ทันแล้วเสเปลี่ยนเรื่อง
"ไป กูไปส่งมึงที่บ้าน"
"ไม่ต้อง!"
"ถ้ามึงไม่ฟังกูจะโทรฟ้องป๊าเดี๋ยวนี้แล้วบอกว่ามึงทำอะไรไว้บ้าง!"
"มึงกะแบล็คเมล์กูเหรอ?"
"นี่กูทำเพื่อมึงนะ เพราะกูรู้ถ้าปล่อยมึงไป มึงจะไปไหนและนั่นไม่เป็นผลดีแน่ๆ เชื่อกูบ้างไอ้แจ็ค หรือลองคิดดูว่ามึงทำพลาดไปกี่ครั้งแล้ว"
ยูคยอมถูกมาร์คใช้ให้ขับรถตามมารับที่บ้านแจ็คสันเพราะเขาเป็นคนขับรถของแจ็คสันพร้อมเจ้าของมาส่งที่บ้านด้วยตัวเอง ทันทีที่แจ็คสันก้าวเข้าไปในบ้านมาร์คก็กลับมาที่ยูคยอมจอดรถรอไว้
"กลับไหนพี่?"
"บ้านกูสิ"
"แต่ผมง่วง... งั้นขับกลับบ้านผมเลยนะ"  ยูคยอมออกรถราวกับการตกลงได้จบแล้วทว่าความจริงไม่เลยสักนิด
"ไอ้ยูค คือมันถึงบ้านกูก่อนป่ะวะ"   มาร์คค้านนิ่งๆ
"แต่ผมจะทำให้ถึงบ้านผมก่อนมีปัญหาอะไรไหมครับพี่มาร์คคนสวย..."   ยูคยอมยิ้มตาหยีอย่างไร้เดียงสามาให้จนมาร์คต้องเมินหน้าหนี แต่ก็ยังแอบด่าในใจ


"ไอ้เด็กตีสองหน้า!"





ยูคยอมขับรถของมาร์คเข้าจอดในบ้านตัวเองโดยไม่ถามความสมัครใจของเจ้าของแต่หากถามก็คงไม่ได้คำตอบเพราะมาร์คกำลังรัวแชทกับแจ็คสันอย่างเอาเป็นเอาตาย เงยหน้าขึ้นมาอีกทียูคยอมก็เดินมาเปิดประตูรถให้เสียแล้ว
บ้านยูคยอมเงียบมากเพราะเขาอยู่คนเดียว มาร์คมองหลายๆ อย่างที่เปลี่ยนไปจากช่วงแรกด้วยความแปลกตา
"แต่งบ้านใหม่เหรอ?"
"ไม่ได้แต่งใหม่  แค่จัดของนิดหน่อย"
ขายาวก้าวนำขึ้นชั้นสองไปเรื่อยๆโดยมีอีกคนคอยตาม ประตูตู้เสื้อผ้าถูกเปิดโดยคนที่ไม่ใช่เจ้าของบ้านก่อนจะยู่ปากนิดๆ เมื่อหาเสื้อผ้าของตัวเองไม่เจอ

"ยูค... ชุดกูล่ะ"

"หาดีแล้วยัง? ถ้าไม่มีคงเอาไปซักมั้ง?"   ยูคยอมเอ่ยเรื่อยๆ แล้วเดินมารื้อหาอยู่สักพักก็ยื่นเสื้อยืดแขนสั้นยัดใส่มือมาร์ค

"อ้ะ.."

"โห...นี่เสื้อคนหรือเสื้อหมี!?"  มาร์คอุทานเมื่อลองทาบขนาดกับตัวเอง

"ใส่ๆ ไปเถอะน่า ส่วนกางเกงจะใส่ไม่ใส่ก็แล้วแต่เลย"

"ดูปากพี่มาร์คนะน้องยูค ไอ้-เชี่ย"

มาร์คเดินเข้าห้องน้ำไปแล้ว ส่วนยูคยอมก็เดินออกไปหยิบเหยือกน้ำเย็นพร้อมแก้วสองใบใส่ถาดมาวางไว้ในห้องเพราะหากตื่นขึ้นมาหิวน้ำจะได้ไม่ต้องเดินไกลก่อนจะวิ่งไปอาบน้ำอีกห้องด้วยความไวแสง

มาร์คออกมาจากห้องน้ำก็เห็นยูคยอมนั่งพิงหัวเตียงกดเกมส์เล่นอย่างเมามันส์ก่อนจะวางเกมส์ไว้ที่โต๊ะข้างเตียงเมื่อเห็นมาร์คทำท่าจะนอน

"ผมเอาน้ำมาวางไว้ให้ พี่จะได้ไม่ต้องเดินไกล แล้วนี่กินก่อนนอนจะได้หลับสบาย"

ยูคยอมเดินไปหยิบแก้วน้ำมาให้ซึ่งมาร์คก็ทำหน้ารับรู้ จากนั้นก็รับแก้วน้ำของรุ่นน้องมายกดื่ม แต่เมื่อไหลลงคอไปแค่นิดเดียวก็รู้ทันทีว่ามันเป็นเหล้า! ไม่ใช่น้ำเปล่า!

มาร์คเบิกตากว้างแล้วหันซ้ายหันขวาเตรียมบ้วนทิ้งแต่ยูคยอมไวกว่า ริมฝีปากของรุ่นน้องประกบลงที่ปากของคนเป็นพี่เพื่อสะกัดกั้นไม่ให้ทิ้งแถมทั้งยังกดจูบแนบแน่นและเป่าลมใส่เล่นๆ  เพื่อให้ของเหลวในปากไหลลงคอพี่ชายหน้าสวยเป็นการบังคับให้กลืนมันลงไป ทั้งมือแข็งแรงยังกระชับต้นคอระหงไม่ให้ขยับออกอีกต่างหาก
สุดท้ายมาร์คก็แพ้เพราะหายใจไม่ออกและยูคยอมไม่ยอมปล่อยทำให้จำต้องกลืนเหล้าแก้วใหญ่ที่พลาดยกดื่มลงคอไปทั้งหมดแล้วมันน้อยเสียที่ไหน ... เต็มแก้วในคราวเดียว ถึงขั้นมึนตึ้บ

"คราวนี้น้ำจริงๆ หึหึ..." ยูคยอมยื่นน้ำที่เพิ่งเทมาใหม่ให้มาร์คดื่มอีกครั้งเพราะดูจากอาการคงคอแห้งไม่น้อย ใจนึงมาร์คก็อยากจะโบกไอ้เด็กหมียักษ์ตรงหน้าแต่หากเหวี่ยงมือไปแล้วไม่โดนหัวคงเจ็บใจน่าดู งั้นเอาไว้ก่อนก็แล้วกัน

ยูคยอมทิ้งตัวลงนอนข้างมาร์คที่ยกมือกุมขมับด้วยความมึนเฉียบพลันด้วยรอยยิ้ม รุ่นน้องนอนตะแคงยกมือท้าวศีรษะมองคนเป็นพี่ก่อนจะห่มผ้าให้ มือหนาเลื่อนมือมาเกลี่ยปอยผมสีแดงที่ปรกตาอยู่ให้จากนั้นก็เริ่มไล้นิ้วเล่นไปตามสันจมูกสวยอย่างแผ่วเบาทั้งที่คนพี่ยังกุมขมับที่เต้นตุบๆ ไม่หยุด

ปลายนิ้วยาวไล่สัมผัสสันกรามได้รูปจนมาแตะผิวเผินอยู่ที่ริมฝีปากนุ่มสีเชอรี่ รุ่นน้องผิวขาวจัดการพลิกรุ่นพี่ตัวบางหันตะแคงหาตัวเองก่อนจะเริ่มรุกล้ำด้วยการใช้ริมฝีปากของตัวเองกดย้ำๆ เป็นการหยั่งเชิงแต่เมื่อมันได้รับการตอบสนองจากลิ้นร้อนอันแสนนุ่มนวล เด็กรุ่นน้องก็เริ่มไล่ควานความหวานที่โหยหามาตลอดแต่ถูกปฏิเสธแล้วปฏิเสธเล่าจนน่าน้อยใจ

เมื่อคนหนึ่งก็ขึ้นชื่อว่าคาสโนว่า... อีกคนก็เป็นจอมเจ้าเล่ห์... แค่รสจูบคงไม่ต้องมีใครยอมใครให้หอบเหนื่อยหรือขาดอากาศหายใจ แถมตอนนี้ร่างของมาร์คก็คร่อมอยู่บนตัวของยูคยอมด้วยฝีมือของคนที่อยู่ใต้ร่างและเสื้อตัวโคร่งที่เคยยื่นให้ใส่ก็ไม่ได้อยู่บนกายอีกต่อไปแล้ว

"อะ... อื้มมม... พะ..พอ พอแล้ว.."

เสียงสั่นๆ ของมาร์คร้องห้ามเมื่อมือสากของรุ่นน้องตัวโตลูบลากผ่านแทบทุกส่วนของร่างกายบางพร้อมขบเม้มเค้นคลึงทิ้งความเสียวซ่านเอาไว้ให้แต่ยูคยอมยอมหยุดง่ายๆ เสียที่ไหน
ยูคยอมไม่เคยมีอะไรลึกซึ้งกับมาร์ค และมาร์คก็พยายามเลี่ยงที่จะอยู่กับยูคยอมแค่สองคน เพราะเรื่องแบบนี้ไม่ได้เกิดครั้งแรก คนหนึ่งระวังตัวอยู่ตลอดส่วนอีกคนก็เจ้าเล่ห์หาที่เปรียบไม่ได้... ก็ดูอย่างวันนี้สิ
ร่างหนาจับร่างของคนเป็นพี่ลงแล้วสลับขึ้นคร่อมร่างแทน นอกจากเสื้อที่หายไปเจ้าบ็อกเซอร์ที่เคยสวมก็กำลังจะหลุดออกจากร่างไปด้วยเหมือนกันด้วยฝีมือของยูคยอมเช่นเดิม
ดวงตาแสนซื่อฉายแววซุกซน สิ่งที่เขาชอบมากที่สุดคือการที่ได้เห็นสีหน้าและการตอบสนองเมื่อถูกตัวเขาสัมผัสจากคนที่ถูกตั้งฉายาว่าคาสโนว่าหน้าสวยคนนี้ต่างหาก

ไม่ใช่แค่หลงใหลแต่มันคือความรัก...

ถึงแม้ยูคยอมจะพยายามเปิดใจชอบคนอื่นบ้างแต่สุดท้ายเขาก็รักคนอื่นไม่ได้

แต่มาร์คกลับไม่ยอมรับมันเสียที

ลิ้นร้อนไล้วนและพรมจูบอยู่แถวซอกคอขาว ส่วนมือก็ลากผ่านแกนกลางลำตัวที่ไร้เนื้อผ้าอย่างจงใจ
มาร์คร้องฮือทันทีที่ของตัวเองที่กำลังขยายถูกสัมผัสด้วยมือและเสียดสีของอีกคนผ่านเนื้อผ้า ยูคยอมเลื่อนตัวเองลงมาที่หว่างขาขาวของร่างบางไม่ลืมที่จะลากจูบอุ่นๆ ทิ้งทวนตามรายทางจนอีกคนบิดเร่า

"ซี๊ด.. อ่า.."

มาร์คซี๊ดปากแรงแล้วกัดปากล่างแน่นอย่างข่มอารมณ์เมื่อยูคยอมคว้ามือของมาร์คมาวางแหมะที่แกนกายของมาร์คเองและจัดการรูดขึ้นลงเป็นจังหวะโดยมีมือของยูคยอมซ้อนอยู่ด้วยแต่ริมฝีปากยังขบเม้มที่ต้นขาที่ถูกจับยกชันขึ้นทั้งสองข้าง
สุดท้ายมาร์คก็ทนไม่ไหวจนต้องขยับมือรูดรั้งถี่รัวตามธรรมชาติโดยปล่อยให้ยูคยอมทำหน้าที่ปลุกเร้าให้อย่างชำนาญ สะโพกเนียนยกเกร็งเมื่อปลายนิ้วของอีกคนทำท่าจะเข้าใกล้ช่องทางที่ไม่เคยผ่านการรุกล้ำ  รุ่นน้องตัวโตยกยิ้มอย่างสมใจที่ทำให้มาร์คสติหลุดได้  เสียงครางหวานที่โปรดนักกำลังดังกระชั้นพร้อมแรงหายใจหอบ

ยูคยอมรั้งมือคนเป็นพี่ไว้ก่อนจะโหมจูบอย่างเร่าร้อนซึ่งต่อให้มาร์คหายมึนจากเหล้าแก้วใหญ่แก้วนั้นไปโขแต่ก็สู้อารมณ์ของตัวเองไม่ไหวแล้ว

"ผมมีอะไรจะบอก..."

ยูคยอมกระซิบแผ่วข้างใบหูเล็กของรุ่นพี่ตัวขาว ไม่ทันที่จะนึกอะไรออกความเย็นแปลกๆ ก็สัมผัสเข้าที่ช่องทางด้านหลังของมาร์คจนเจ้าตัวสะดุ้ง

"ยูคยอม!" มาร์คร้องเสียงหลง เขายกมือปัดป้องพร้อมกระถดตัวหนี

"ชู่วววววว... ไม่ต้องตกใจนะครับที่รัก แค่เทส... สัญญา"

น้ำเสียงบวกกับหน้าตาใสซื่อออดอ้อนปลอบ  รู้ทั้งรู้ว่าเชื่อไม่ได้แต่มาร์คก็เลือกจะเชื่อ เพราะยูคยอมไม่เคยทำอะไรแบบนี้ ไม่เคยเลยจริงๆ
ร่างหนายกตัวขึ้นนั่งพิงหัวเตียงแล้วจับอีกคนนั่งคร่อมบนหน้าขาและดันให้เอนหลังบนขายาวที่ยกขึ้นชันของตัวเอง นิ้วเรียวที่ชโลมเจลหล่อลื่นเริ่มกดสำรวจก่อนสอดนำร่อง

"อ๊า..~ ยะ ยูคยอม.."

คนถูกรุกล้ำหลุดคราง หลังเนียนเอนแนบหน้าขาของยูคยอมด้วยความเจ็บระคนเสียว มือบางจิกเล็บที่ลำตัวหนาของยูคยอมเพื่อระบายความซ่านสยิว มือบางกลับมาทำหน้าที่อย่างห้ามตัวเองไม่ได้ เพียงนิ้วเดียวที่ขยับตรงจุดกระตุ้นก็ทำให้มาร์คแทบคลั่งแต่คนที่พรมจูบสร้างรอยคิสมาร์คไม่เลิกนั้นทรมานยิ่งกว่าเมื่อร่างกายของตัวเองเริ่มทนกับความต้องการแทบไม่ไหว จุดอ่อนไหวกลางลำตัวคับแน่นจนคนด้านบนรู้สึกได้แถมยังลูบเค้นคลึงอย่างมันส์มืออีกต่างหาก

"ฮื้อ..อย่าเกร็งสิที่รัก"

คนตัวโตเอ่ยพร้อมโน้มตัวเข้าหาและส่งเรียวลิ้นร้อนหยอกล้อที่หน้าอกทั้งสองข้างจนเมื่อจะผละออกกลับถูกมือของอีกคนกดเอาไว้ไม่ให้ไปไหน แถมมือบางขยุ้มกลุ่มผมหนาเพื่อระบายอีกต่างหาก
นิ้วเรียวถูกชักออก ก่อนจะเริ่มเสริมจำนวนนิ้วเป็นสองสะโพกบางก็ยกสูงพร้อมกับมือที่ยังทำหน้าที่ไม่หยุดหย่อน ตามมาด้วยเสียงครางสะท้านที่กำลังใกล้ถึงจุดปลดปล่อยในไม่กี่วินาทีข้างหน้า
"อึ้ก... อื้อ... อ๊า..."
ยูคยอมกดจมูกแรงๆ ลงบนแก้มขาวของรุ่นพี่ที่ทิ้งตัวอย่างเหนื่อยหอบ การเป็นผู้ถูกกระทำมันต่างจากเป็นคนกระทำตรงที่รับความเสียวซ่านจนหมดเรี่ยวหมดแรง
เขาซับเหงื่อบนใบหน้าให้เบาๆ อีกครั้งก่อนจะยกตัวมาร์คให้นอนดีๆ แล้วเดินเข้าห้องน้ำทำภารกิจของตัวเองที่คั่งค้างจนสร้างความทรมานบ้าง จากนั้นจึงกลับมาจัดการดูแลคนที่เพลียจนน่าหมั่นเขี้ยวอีกที








กลับไปหน้าบทความทางนี้เลย >> http://my.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1212589&chapter=18




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น